ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนพื้นเพเป็นคนประจวบฯ โดยกำเนิด แต่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เพราะต้องอาศัยทำงานที่กรุงเทพฯ นานๆ ครั้งจะได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวที่บ้านเกิด พอได้ไปก็นึกว่าต้องมีเรื่องราวดี ๆ มาเล่าสู่กันฟัง แน่นอนอาหารอร่อยที่จะขอแนะนำในวันนี้ คือร้านครัวป้าแฉ่ง "ชิมแกงป่าไก่บ้าน รสชาดถูกปาก ต้องแวะร้านครัวป้าแฉ่ง ด่านสิงขร อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์"
เครื่องมือที่ผู้เขียนใช้ทำการรีวิวในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่ง Samsung Galaxy Note รุ่นแรก และยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางคือ รถยนต์ นิสสัน ซิลฟี่ 1.6V คันเก่งนั่นเอง รูปภาพที่ได้มาทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความคมชัดของกล้องมือถือนั่นเอง และต้องขอขอบคุณ
vanvipthailand แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและทริปในครั้งนี้
รถยนต์คันเก่งที่ใช้ในการเดินทาง นิสสัน ซิลฟี่ 1.6V
การเดินทาง
ร้านครัวป้าแฉ่งอยู่ระหว่างเส้นทางห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษมแยกเข้าไป 7 กิโลเมตร สังเกตง่ายๆ เป็นทางแยกเข้าไปด่านสิงขร อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั่นเอง พอขับรถไปสักพักบนทางหลวงชนบท ปข.1039 จะพบป้ายร้านครัวป้าแฉ่งชัดเจน ทางซ้ายมือ
ก่อนทางเลี้ยวสังเกตดีๆ จะมีที่ทำการไปรณีย์ด่านสิงขรขนาดกะทัดรัด หรือที่ทำการไปรณีย์จิ๋วด่านสิงขร
พอเลี้ยวซ้ายเข้าไปสักประมาณ 500 เมตรก็จะพบกับป้ายร้าน ถึงแล้วครัวป้าแฉ่ง แวะถ่ายรูปป้ายร้านรุ่นเก่าแก่ที่เจ้าของร้านยังเก็บรักษาไว้อยู่
พอเข้าไปนั่งในร้านก็ดูราคาก่อนเลย แพงไหม ตามเมนูในรูปเลยครับ
ชุดเครื่องดื่มเสิร์ฟก่อน ประกอบด้วยน้ำเปล่า แก้ว และน้ำแข็ง
เจอป้าแฉ่งกำลังทำความสะอาดร้านอยู่พอดี เลยขออนุญาตถ่ายภาพแกมาลงในบล็อกสักหน่อย โดยป้าแกย้อนภาษาพื้นเมือง "มีคนมาถ่ายรูปแกไปช่วยโปรโมทเป็นสิบๆภาพแล้ว นับไม่ถ้วน" ผู้เขียนก็ได้แต่อมยิ้ม
เมนูแนะนำที่สั่งไปคือ แกงป่าไก่บ้าน รสชาดถูกปาก พริกแกงตำเอง พร้อมมะเขือพวง มะเขือเปราะ เปลือกมะเขือขื่น ดูน่าทานจริง ๆ
ร้านครัวป้าแฉ่งเลือกใช้ข้าวหอมมะลิ ใส่หม้อมาแบบร้อน ๆ ทำให้น่ารับประทานขึ้นมากทีเดียว
ผู้เขียนสั่งปลานิดทอด ไป 1 ตัวปลาตัวอวบใหญ่อ้วนมากทีเดียว
สุดท้ายต้องเก็บเงิน หมดค่าอาหารมื้อนี้ไป 350 บาทเพราะผู้เขียนแอบสั่งพริกแกงป่า ครึ่งกิโลเอาไปฝึกทำทานเองที่บ้าน
หน้าตาพริกแกงป่าครัวป้าแฉ่ง 70 บาท ครึ่งกิโล ได้มาเยอะมากทีเดียว สงสัยว่าจะต้องทานแกงป่าทุกมื้อกันละทีนี้
ออกจากครัวป้าแฉ่งก็มุ่งหน้าเลี้ยวซ้าย ไปด่านสิงขร ด่านกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า ได้ข่าวว่ากำลังทำการเปิดด่านแบบถาวร ระหว่างข้างทางมีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อเตรียมรับโครงการนี้กันอย่างเต็มที่ทีเดียว
ขากลับจากด่านสิงขร แวะซื้อของฝากที่ สวนสับปะรด ของทิปโก้ฟาร์ม รูปด้านหน้าทางเข้าดูเก๋ดีเลยจอดรถจับภาพมาได้มองป้ายไกลๆ เขียนว่า Pineapple Park
มุมมองอาคารร้านค้า สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทิปโก้ ทำไมต้องทิปโก้ เพราะว่าทิปโก้มีโรงงานอยู่ที่ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันสินค้าน้ำผลไม้ย้ายไปผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแถวๆอยุธยาหรือปทุมธานีแล้ว
รูปรถไถเล็กคันที่อยู่หน้าฟาร์มทิปโก้
มีฟาร์มแกะให้ดูด้วย ทั้งตัวจริง ตัวปลอม แดดจัดมากผู้เขียนได้แต่แค่แอบมองอยู่ห่าง ๆ ยังดีที่ได้ภาพมาเป็นที่ระลึก
ขนมปังซิคแซคที่นี่ก็ทำขาย ผู้เขียนซื้อมา 3 กล่อง แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไร สุดท้ายต้องแจกหมด ตั้งใจไว้ทานเอง ได้พวงกุญแจของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย ราคา 29 บาท ใหญ่โตดี ห่วงก็โอเค
น้ำสับปะรด หวานชื่นใจ เสียอย่างเดียวคือขายพร้อมน้ำแข็ง เสียรสชาดไปมากทีเดียว สนนราคา 25 บาท
สำหรับการนำเสนอข้อมูลดี ๆ และเรื่องราวอาหารอร่อยสไตล์ที่ผู้เขียนผ่านไปพบมา ต้องขอขอบคุณ บริษัท
ไทย พรอสเพอรัส ไอที จำกัด นอกจากนี้ยังสามารถอ่านบล็อกอื่น ๆ ของทางบริษัทฯ